DEV Community

armariya
armariya

Posted on • Originally published at Medium on

ทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ Colemak?

หวังว่าสักวันนึงจะมีคนมาถามคำถามนี้กับผม ฮ่า ๆๆ เพราะฉะนั้นก่อนอื่นเลย ทุกคนจะต้องรู้ว่าอะไรคือ Colemak

Colemak Keyboard Layout

Colemak, ออกเสียงว่า /’ko:lmæk/ (Coal-Mac)เป็นรูปแบบการจัดวาง Layout ของคีย์บอร์ดที่ถูกคิดค้นโดย Shai Coalman ในปี 2006 ตอนนี้เป็น Keyboard Layout ยอดนิยมอันดับ 3 โดยอันดับแรกคืออันที่ทุกคนใช้กันอยู่นี่แหละคือ QWERTY ส่วนอันดับสองคือ Dvorak

Heat map ของ Keyboard Layout QWERTY

Heat map ของ Keyboard Layout Dvorak

Heat map ของ Keyboard Layout Colemak

ข้างบนนี่คือ Heat map ของ Keyboard Layout ของแต่ละแบบ จะเห็นว่าทั้ง Dvorak และ Colemak พยายามจะแก้ปัญหาที่ QWERTY มี คือการที่เราต้องเอื้อมมือไปกดตัวอักษรในแถวบนหรือล่าง แทนที่จะอยู่บน Home Row (แถวกลางนั่นแล มันคือแถวที่เราวางนิ้ว) ซึ่งจริง ๆ แล้วมันยังมี Layout อื่น ๆ อีกมากมายเช่น Workman, Dvorak Programmer และอื่น ๆ อีกมากมาย

จุดเริ่มต้น

มาถึงจุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องแล้ว ฮ่า ๆๆ ตั้งแต่เด็กแล้ว ผมมีโอกาสได้เรียนวิชาพิมพ์ดีดตอนมัธยมต้น โดยตอนนั้นยังทันที่เรียนแบบพิมพ์ดีดแบบเครื่องพิมพ์ดีดเลย คิดแล้วก็เป็นโชคดีของผมนะ ที่ได้เรียน รู้สึกเท่ แต่ว่าการเรียนนั้นตอนสอบก็โอเคอยู่นะ แต่พอผ่านมา ผมได้เล่นเกมออนไลน์เกมแรก Ragnarok นั่นเอง เพิ่งเข้าใหม่ ๆ เลย ด้วยความที่ต้องการ Speed ในการพิมพ์ เลยพิมพ์ไปพิมพ์มาเหลือใช้อยู่แค่ แปดนิ้วเท่านั้น (นิ้วก้อยไม่ได้ทำงานนั่นเอง) แล้วก็เป็นแบบนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อน..

ย่ำอยู่ที่เดิม

ระหว่างที่ผมนั่งทำงานเป็นเป็น Developer อย่างเช่นทุก ๆ วันที่ผ่านมา ซึ่งที่บริษัทของผมเนี่ย นาน ๆ ทีก็จะมีพิธีกรรมอย่างหนึ่ง คือการแข่งพิมพ์กันอย่างไร้เหตุผล นาน ๆ ก็จะเล่นกันสักทีนึง สิ่งที่ผมสังเกตได้ก็คือความเร็วในการพิมพ์ของผมจะอยู่ที่ประมาณ​ 50 wpm มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเล่นผ่านมากี่ปีก็ยัง 50 wpm อยู่นี่แหละ เมื่อเดือนที่แล้วผมก็เลยสงสัยว่าอะไรฟะ ทำไมมันไม่เร็วขึ้นเลย ทั้ง ๆ ที่พิมพ์มาเป็นปี ๆ

ก้าวไปข้างหน้า

ผมเลยไปลองเริ่มศึกษาด้วยว่าจะทำยังไงให้พิมพ์เร็วขึ้นได้บ้าง ทุก ๆ ที่ก็บอกแหละนะว่ามันต้องเริ่มจากการพิมพ์สัมผัสนี่แหละ การที่เราเพิ่มเข้าไปอีกสองนิ้ว มันจะช่วยเพิ่มความเร็วได้อีกมาก ก็เลยเอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ลองฝึกพิมพ์สัมผัสอีกสักรอบละกัน แต่จะเรียนใหม่ทั้งทีเนี่ย ลองดูเรื่อง Keyboard Layout สักหน่อย เริ่มจากดูก่อนเลยว่านอกจาก QWERTY แล้วมีอะไรที่ฮิต ๆ อีกบ้างก็คือเจอแบบข้างบน Dvorak กับ Colemak ที่เป็นอันดับ 2 กับ 3 แล้วก็เลยพบว่าอ้าวสองอันนี้เนี่ยมีให้เปลี่ยนใน Mac อยู่แล้ว ไม่ต้องโหลด Layout มาลงเพิ่มก็เลยสบายละ โดยสิ่งที่สองอันนี้เคลมว่าเหนือกว่า QWERTY ก็คือเรื่องของความ Ergonomic ไม่เจ็บข้อมืออะไรงี้ ก็ไม่รู้ว่าจริงไหมน่ะนะ ฮ่า ๆๆ

Layout ของ Dvorak

ตอนแรกใจนี่มาทาง Dvorak มาก จะเห็นว่า Dvorak จะเอาสระพวก a o e i u มาไว้ทางมือซ้ายหมดเลย ซึ่งมันก็ดีไปอีกแบบ แต่ถ้าสังเกตดี ๆ คุณจะพบกับอะไรครับ!!? เอาง่าย ๆ ลองดูตัว C ก็ได้ครับ ลองคิดว่าจะต้อง Copy/Paste ดูครับ! ชีวิตเริ่มลำบากขึ้นมาเลยใช่ไหม และใช่ครับ นั่นคือข้อเสียของ Dvorak หลัก ๆ เลยก็คือ Keyboard Shortcut แย่มาก ๆ กดลำบาก ก็คือพิมพ์ง่ายแหละ แต่ความสะดวกสบายนี่หายไปเพียบ

อะ ข้อเสียมันหนักหน่วงไปรับไม่ได้ เลยไปลองดู Colemak บ้าง ก็ค้นพบว่า Shai Coleman เนี่ยเขาก็เข้าใจถึงจุดนี้ รวมถึงเข้าใจว่าการเปลี่ยนทั้ง Layout ไปเลยเนี่ย มันช่างไม่น่าเย้าหยวนใจให้เปลี่ยนเอาซะเลย เลยทำการเปลี่ยนคีย์จาก QWERTY เพียงแค่ 17 คีย์เท่านั้น

Layout ของ Colemak

รวมถึงการเอาตัว shortcut สำคัญ ๆ เนี่ยไว้ทำเดิม ไม่ว่าจะเป็น C, V, W, Q ที่ใช้กันบ่อย ๆ พออ่านคำเคลมแล้วก็เออดูดีอยู่นะ เอาละวะ สักครั้งนึงในชีวิตขอเลือก Layout ที่จะใช้ด้วยตัวเองบ้างเถิด ก็เลยเลือกที่จะฝึก Colemak ดูสักตั้งหนึ่ง

การฝึกฝนมันช่างหนักหน่วง

การฝึกฝนก็เริ่มจากการที่ใช้เว็บไซต์ https://thetypingcat.com/ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ดีมาก ๆ เขาจะค่อย ๆ ให้ฝึกทีละคีย์สองคีย์ โดนไล่ไปทีละแถว ตอนแรก ๆ เนี่ยผมก็เริ่มจากการใช้ QWERTY ในตอนกลางวัน แล้วมานั่งฝึกอันนี้ในตอนกลางคืน ไม่งั้นเดี๋ยวจะเขียนโค้ดได้ช้าเกินงานไม่เสร็จ ฮ่า ๆๆๆ ซึ่งบอกตามตรงว่ามันลำบากมาก ๆ เลยนะกับการเริ่มฝึกแรก ๆ ภาพ Layout มันยังไม่มา ใช้พลังของ muscle memory ล้วน ๆ ตอนที่ฝึก ขอแนะนำคำว่าอย่าก้มลงไปมอง keyboard เพราะจะทำให้ติดเป็นนิสัยในภายหลังได้ ถ้าจะมอง Layout ก็มองอันของในเว็บนั่นแหละครับ มันมีให้อยู่และ จะได้ไม่ต้องก้มครับ

ตอนแรก ๆ เนี่ยคุณจะพิมพ์ได้แบบสโลว์ไลฟ์มาก ๆ ครับ แบบอารมณ์ 10 wpm แบบนั้นเลย ต้องอดทนครับ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ฮ่า ๆๆ ผมก็ฝึกจนครบทุกตัวอักษรใช้เวลาประมาณสามอาทิตย์ครับ แล้วก็ฝึกพิมพ์มาเรื่อย ๆ จนได้ประมาณ 30 wpm ครับ พอถึงจุดนี้ผมก็เอาวะ น่าจะใช้ทำงานไหวแล้ว ก็เอา QWERTY ออกจาก Keyboard ออกไปแล้วใช้ Colemak ทำงานซะเลย

ทำงานช้ามาก ๆ ช้าจนหงุดหงิด : armariya

นั่น quote มาจากคำพูดของผมเองที่พูดกับตัวเองด้วยเนี่ยแหละ ฮ่า ๆๆๆ ความเร็วผมก็กระเตื้องขึ้นช้ามาก ๆ แต่ก็ดีขึ้นตามวันเวลาที่เปลี่ยนไปครับ จนประมาณเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้ลองใช้อีกเว็บหนึ่งก็คือ https://www.keybr.com/ มันคล้าย ๆ กันแหละครับ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าเอาไว้ฝึกตอนที่รู้ Layout หมดแล้วดีกว่าครับ คือเขาทำดีมาก ๆ ถ้าคุณ Login เนี่ย มันจะมี Profile ให้ดูด้วยครับ แบบพิมพ์เร็วขึ้นแค่ไหน พิมพ์ผิดบ่อยไหม พิมพ์ตัวไหนบ่อย ซึ่งดีมาก ๆ เลยครับ ทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวเอง แล้วทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก ๆ ครับ

หลังจากผ่านมาเดือนครึ่งจากจุดเริ่มต้น จนตอนนี้ผมพิมพ์ได้เฉลี่ยนประมาณ 55 wpm แล้วครับ สูงสุดคือ 72 wpm ซึ่งรู้สึกดีมาก ๆ ที่การลงแรงของเรามันประสบความสำเร็จ เย่!

สรุปทั้งหมดทั้งมวล ถ้าใครอยากพิมพ์เร็วเนี่ย ถ้าไม่อยากเปลี่ยน Layout แนะนำว่ายังไง ๆ ก็ควรที่จะพิมพ์สัมผัสนะครับ แนะนำให้ลองลงแรงดู มันจะช่วยให้พิมพ์ได้เร็วขึ้นเยอะเลยครับ แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนมาใช้ Colemak แบบผมละก็บอกเลยว่า Welcome!

อ้างอิง

Top comments (3)

Collapse
 
patarapolw profile image
Pacharapol Withayasakpunt

แค่คิดว่า dev จำเป็นต้องพิมพ์เร็วด้วยหรอ ไม่ได้เป็น translator หรือ intepreter ซะหน่อย

Collapse
 
armariya profile image
armariya

ผมคิดว่าถ้าเร็วมันก็น่าจะดีกว่านะครับ มันจะมีจังหวะที่เรามีิอัลกอริทึ่มในหัวอยู่แล้ว แล้วเราต้องพิมพ์มันออกมา ยิ่งเราพิมพ์เร็วเท่าไหร่ มันก็ทำให้ไปทำอย่างอื่นต่อได้เร็วขึ้นนะครับ เรียกว่า Nice to have ละกัน หลาย ๆ อย่างบนอินเทอร์เน็ตก็ต้องใช้การพิมพ์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะพิมพ์โพส เขียนบล็อก ถ้าพิมพ์เร็วมันก็ดี แต่ถ้าช้าลงมาหน่อยก็เรียกว่าไม่ได้เป็นอะไรครับ ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านนะครับ

Collapse
 
zergreen profile image
zergreen

จะโดนพี่ป้ายยาส่ะแล้ว