DEV Community

Cover image for บันทึกการลองเล่น Docker
Nantipat
Nantipat

Posted on • Updated on

บันทึกการลองเล่น Docker

ท่าบ้านๆทั่วไปที่เจอกัน (Nestjs)

FROM node:14-slim
WORKDIR /usr/src/app
COPY package*.json ./
# If you add a package-lock.json speed your build by switching to 'npm ci'.
RUN npm ci --only=production
RUN npm i -g @nestjs/cli
# Copy local code to the container image.
COPY . .
# Display directory structure
RUN ls -l
# Expose API port
EXPOSE 3000
# Run the web service on container startup.
CMD [ "npm", "start" ]
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

[Dockerfiles] -> build -> [Docker Image] -> run -> [Container]

Build

docker build -t {image-tag} {path}
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

Run

docker run -p {out_port}:{in_port} -v {out_path}:{in_path} {img_tag}
#example 
docker run -p 8888:8888 -v pwd:/work docker-example
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode
  • -p คือการ map port จากข้างใน Container มาข้างนอก
  • -v คือการ map work directory ข้างในกับข้างนอก เพื่อที่เวลาเราแก้ไขไฟล์ที่เครื่องของเรามันจะเซฟกลับเข้าไปที่ใน Container ด้วย

Options เพิ่มเติม

  • - entrypoint= : กำหนด entrypoint เองแทนส่วนใน Dockerfiles
  • - e : กำหนด environment variables ด้านใน container
  • - d : สั่งรัน container แบบ detached หรือคือเป็น background process

อธิบายเพิ่ม

โดยปกติ ports ที่ถูกเปิดไว้ภายใน container นั้นจะไม่สามารถเข้าใช้งานบน
Docker Host ซึ่งการที่จะเข้าใช้งานได้นั้นต้องทำ publish port ที่ต้องการก่อน ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้าง container ขึ้นมา

สรุปคำสั่งใน docker file

  • FROM เลือก base image (pull มาาจาก dockerhub)

  • RUN execute command

  • CMD execute command แต่มีได้แค่ครั้งบเดียวใน file ถ้ามีมากกว่าหนึ่งจะใช้อันสุดท้าย หรือใช้เป็น default parameter ให้ ENTRYPOINT

  • LABEL ใส่ metadata ให้ image

  • EXPOSE กำหนดให้ container รอรับ request ตาม port ที่กำหนด ใช้คู่กับ -p ตอนใช้ docker run

  • ENV กำหนดตัวแปร environment ให้ตอนทำ image และ container

  • ADD copy file เข้า image

  • COPY copy file เข้า imageต่างกับ ADD ตรงที่ไฟล์ต้นฉบับได้เฉพาะ local เป็น remote url ไม่ได้

  • ENTRYPOINT คำสั่งที่จะให้ run หลังจากstart container

  • VOLUME กำหนด mount point ให้ image

  • USER กำนหด user ที่จะใช้ run คำสั่ง RUN CMD ENTRYPOINT

  • WORKDIR กำหนด working directory สำหรับ RUN CMD ENTRYPOINT COPY ADD

  • ARG กำหนดตัวแปรไว้สำหรับตอน BUILD

  • ONBUILD ใช้สำหรับให้ run คำสั่งแต่ให้รอ trigger เพื่อทำงานต่อในกรณีที่ต้องรอให้ build ตัวอื่นก่อน

  • STOPSIGNAL สั่งให้หยุดโดยใช้ system call signal

  • SHELL เปลี่ยนไปใช้ shell ที่กำหนด

คำสั่งที่ใช้บ่อย ๆ

  • docker rm : ใช้ลบ container
  • docker rmi : ใช้ลบ image / image tag
  • docker start : start container ที่ถูกสร้างมาแล้วแต่ไม่ได้อยู่ในสถานะ running
  • docker stop : ใช้หยุดการทำงานของ container ที่ running อยู่
  • docker ps : ดู container ทั้งหมดที่ running อยู่
  • docker ps -a** : ดู container ทั้งหมดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา
  • docker exec -it ${CONTAINER_ID} bash : ใช้เพื่อเข้าไปใน Container ->
  • docker rmi -f $(docker images -a -q) delete all the images,
  • docker rm $(docker ps -a -q) delete all the contanier reference
  • คู่มือ Docker ฉบับผู้เริ่มต้น

  • มาลองใช้ docker กันดีกว่า

DockerCompose

แก้ปัญหา build dockerfile หลาย ๆ file

คำสั่งที่ดูจะคล้ายกัน

  • docker-compose up to start or restart all the services defined in a docker-compose.yml

  • docker-compose run command is for running “one-off” or “adhoc” tasks. It requires the service name you want to run and only starts containers for services that the running service depends on

  • docker-compose start Starts existing containers for a service.

Doc

https://www.jittagornp.me/blog/install-docker-compose-on-ubuntu-18.40/

คำสั่งที่เรามักจะหลงกลไกการทำงานของมัน

  • docker-compose up ไม่ได้ rebuild images แต่ start
  • docker-compose up --build rebuild and start
  • docker-compose build rebuild เฉย ๆ

เรื่องที่ผมเพิ่งเข้าใจ

แบบเข้าใจง่าย ๆ ก่อน

  • CMD คือ run OS แล้วทำงานเลย
  • entrypoint คือเหมือน shortterm คำสั่ง

ว่ากันด้วยเรื่อง Shell and Exec Form

เกี่ยวกับ CMD and entrypoint

Screenshot_1
shell and Exec คืออะไร?


เรื่องที่มักจะสับสน

PORT ใช้เพื่อ mapping host server and Docker container

example 8080:80
80 in the container to port 8080 on the Docker host

EXPOSE ใช้เฉพาะกำหนด port application running

ที่มาของปัญหา

image

  • รูปแรกลงอะไรจะอยู่ใน OS ก้อนเดียว version จะชนกันยับๆ
  • ใช้ VM HYPERVISOR ตัวนี้จะเป็นตัวจำลองการทำให้ให้ VM provide hardware เข้าไปใน Guest OS ได้เพื่อเข้าไปลง OS ให้มันทำให้ เปลืองทรัพยากร เสียเสียเวลา แล้วถึงจะลง application ที่เราต้องการได้

  • container docker agent จะจัดการ users space แบ่งแต่ละกล่องออกมาอย่างชัดเจน เช่น permission โดยที่ไม่กระทบ root ตัวจริง
    การ mapping network

image

image

Top comments (0)